ร้าน บารมีหลวงปู่เม้า
www.tumlawyer.99wat.com
0874413720
tum_lawyer

"""กระผมทนายวันชัย นันท์สุนีย์ (ทนายตั้ม) นอกจากการประกอบวิชาชีพทนายความ รับว่าความทั่วราชอาณาจักรแล้ว ผมยังมีความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธคุณของพระเกจิอาจารย์หลายท่านสายจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม หลวงพ่อเป็น วัดเจริญนิมิตร เป็นต้น โดยเฉพาะหลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม ซึ่งกระผมมีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก จึงมีความตั้งใจที่จัดทำเวปไซนี้เพื่อเผยแผ่บารมีของหลวงปู่ ตลอดจนการให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาหาความรู้ อีกทั้งเพื่อเป็นการรับเช่าหรือให้เช่าพระเครื่องสายจังหวัดบุรีรัมย์"""

ติดต่อทาง facebookทนายวันชัย นันท์สุนีย์

 
หนุมานหลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม หนังสือจม เนื้อสัมฤทธิ์


  ส่งข้อความ

ชื่อร้านค้า
บารมีหลวงปู่เม้า
โดย
tumlawyer
ประเภทพระเครื่อง
เครื่องราง
ชื่อพระ
หนุมานหลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม หนังสือจม เนื้อสัมฤทธิ์
รายละเอียด
หนุมานหลวงปู่เม้า ความงามในแบบหล่อโบราณที่เข้มขลัง เป็นเอกลักษณ์ จัดอยู่ในทำเนียบเครื่องรางยอดนิยม และสุดยอดเครื่องรางแดนอิสานของเมืองบุรีรัมย์

หนุมานหล่อโบราณพิมพ์หน้าหนังสือจม แท้ดูง่าย มันส์เข้มขลัง ขึ้นทำเนียบเครื่องรางยอดนิยม

หลวงปู่เม้า ท่านปลุกเสกหนุมานแบบรู้จริง ดีจริงทรงฤทธิ์จริง คุ้มตัวได้จริง ตามตำราวิชาโบราณ และมีหนุมานตนแม่ตนครูที่ทำไว้บูชาอยู่บนเขาพนมรุ้ง อารธนาติดตัวคิดทำสิ่งใดก็สำเร็จ มีคนรักคนเมตตาเป็นที่รักใคร่ของญาติมิตรวงศ์วาน และผู้ที่ได้พบปะพูดคุย การงานจะเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง มีโชคลาภ วาสนา แคล้วคลาดปลอดภัย นิรันตราย

พระคาถาบูชา "มะอะอุ หะนุมานะ นะสังสะตัง นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ"

หลวงปู่เม้า พลวิริโย นามเดิม เม้า สุราฤร์ เกืดเมื่อวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปี ๒๔๑๗ เมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ได้บรรชาเป็นเณร โดยมีพระอาจารย์นิล ชักชวนให้อุปสมบทเป็นเณร ณ วัดใหม่เรไรทอง ท่านได้ศึกษาอยู่จนอายุได้ ๒๐ ปี จึงอุปสมบทเป็นพระอยู่ที่วัดใหม่เรไรทองเช่นกัน เมื่อท่านอุปสมบทได้ ๕ พรรษาก็ได้ร่วมกับญาติโยมในถิ่นนั้นช่วยกันสร้างสาลาการเปรียญจนสำเร็จ ๑ หลัง จากนั้นก็ก็ย้ายจากวัดใหม่เรไรทองไปอยู่วัดบ้านถนนหัก และได้ศึกษาวิชาวิปัสนากรรมฐานอยู่กับพระอาจารย์เพียร ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่โด่งดังในยุคนั้น ระหว่างนั้นท่านก็ได้สร้างศาลาการเปรียญ ๑ หลัง กุฏิ ๑ หลังจนสำเร็จ หลังจากที่ท่านได้เรียนวิชาต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์เพียร จนหมดสิ้นแล้ว ท่านก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอยู่กับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีลเถระ ที่วัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งขณะนั้นก็มีพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระร่วมศึกษาอยู่ด้วย ต่อมาท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็ยเจ้าอาวาสวัดบ้านตะโก ท่านก็ได้พัฒนาวัดตะโกจนเป็นวัดที่ทันสมัยและเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว โดยสร้างพระอุโบสถ ๑ หลัง และสระน้ำใว้ในวัดเพื่อความสะดวกของพระภิกษุสามเณรและญาติโยมโดยทั่วไป เมื่อท่านเห็นว่าวัดตะโกนี้ก็มีความเจริญรุ่งเรืองดีแล้ว ท่านไม่ต้องการที่จะหาความสุขส่วนตัวอยู่ที่วัดนี้ ท่านจึงย้ายไปจากวัดบ้านตะโกไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดสังเวทวิริญาวาสและได้สร้างศาลาการเปรียญขึ้น ๑ หลัง พระอุโบสถ ๑ หลัง กุฏิ ๑ หลัง และยังแบ่งที่ดินในวัดให้สร้างโรงเรียนอีก ๔ ไร่ เพื่อที่จะใช้เป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนของกุลบุตรกุลธิดาของญาติโยมในถิ่นนั้น หลังจากนั้นท่านจึงได้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดบ้านหนองยายพิม ท่านก็ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยและความสุขส่วนตัว ท่านยังได้ทุ่มเทกำลังกายสร้างกุฏิ ๑ หลัง ศาลาการเปรียญ ๑ หลังจนสำเร็จ หลังจากนั้นท่านจึงย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดหนองสี่เหลี่ยมในปัจจุบัน และท่านก็ได้เริ่มงานพัฒนาวัดสี่เหลี่ยมโดยการสร้างพระอุโบสถ ๑ หลัง แต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ เพราะขาดทุนทรัพย์ในการก่อสร้าง หลวงปู่เองก็มีอายุ ๑๐๐ ปีแล้ว จึงอยากให้พระอุโบสถหลังนี้เสร็จโดยเร็ว หลวงปู่จึงดำริที่จะสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่านขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อที่จะได้ให้ไว้เป็นเครื่องสักการะบูชายึดเหนี่ยวจิตใจ และคุ้มครองภัยตรายแก่บรรดาลูกศิษย์โดยทั่วกัน อีกทั้งจะได้นำทุนทรัพย์มาทำการบูรณะปฏิสังขรสร้างพระอุโบสถให้สำเร็จลุล่วงต่อไป
ราคา
โชว์เพื่อการศึกษา
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
0874413720
ID LINE
tum_lawyer
จำนวนการเข้าชม
1,026 ครั้ง
บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-46367-6
ธนาคารทหารไทย / 513-2-27866-3

แสดงความคิดเห็น